วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ประโยชน์น้ำมันรำข้าว



น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
              น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว มีสัดส่วนระหว่างกรดไขมันอิ่มตัว  และกรดไขมันไม่อิ่มตัว ที่เหมาะสมจึงมีคุณประโยชน์และเหมาะสมต่อการบริโภคมากที่สุด น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวที่ผ่านการสกัดอย่าพิถีพิถันนั้นจะสามารถคงคุณค่าความเข็มข้นของสารประกอบสำคัญต่างๆ ที่ช่วยในการดูแลสุขภาพของเรา
           ส่วนประกอบสำคัญของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
            1.     กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated Fatty Acid)
            2.     กรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fatty Acid)
            3.     แกมมา ออริซานอล (Gamma-Orizanal)
            4.     เซราไมด์ (Ceramide)
            5.     ฟอสฟอไลปิด (Phospholipids)
            6.     โทคอลกรุ๊ป (Tocols Group)

กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated Fatty Acid)
            โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้บริโภคกรดไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% ของพลังงานทั้งหมด น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% จึงเหมาะสมต่อการบริโภคเพื่อการดูแลสุขภาพ เป็นอย่างยิ่ง

กรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fatty Acid)
             กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีบทบาทต่อการลดระดับไขมันในเลือดโดยลดแอลดีแอล (LDL –C, Low Density Lopoprotein-Choiesterol) และช่วยเพิ่ม เอชดีแอล คอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL –C ,High Density Lipoprotein – Cholesterol) จึงช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

แกมมา ออริซานอล (Gamma-Orizanal)
           เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการด้วยกันคือ
           -       ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด
           -       ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
           -       ช่วยลดอาการผิดปกติต่างๆ ของสตรีวัยทอง
           -       มีคุณสมบัติเป็นสารต้านการเกิดอนุมูลอิสระและป้องกันรังสีอุลตราไวโอเล็ท
           -       ช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื่น
           -       ช่วยลดการอักเสบต่างๆ ได้ 

เซราไมด์ (Ceramide)
            เป็นองค์ประกอบของไขมันในชั้นผิวหนัง (Sphingolipid) ซึ่งมีความสำคัญในการปกป้องผนังเซลล์จากการถูกทำลาย มีความสามารถในการกักน้ำได้ดี ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิว ทำให้ผิวหนังมีความยีดหยุ่น และชุ่มชื้นอยู่ตลอด

ฟอสฟอไลปิด (Phospholipids)
            เป็นโครงสร้างของเยื่อหุ้มต่างๆ ของเซลล์ในร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยื้อหุ้มเซลล์สมองและประสาท ทำให้การสื่อกระแสประสาททำงานได้ดีขึ้น ช่วยปกป้องเซลล์ประสาทจากสารพิษและอนุมูลอิสระต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมในด้านความจำ และช่วยลดอาการเครียดได้อีกด้วย 

โทคอลกรุ๊ป (Tocols Group)
            ประกอบด้วย วิตามิน อี (Vitamin E หรือ Tocopherol) โทโคพีนอล (Tocophenol) โทโคไตรอีนอล (Tocotrienol) มีหน้าที่ในการเพิ่มความเข็งแรงให้แก่เซลล์ ช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ และป้องกันการแก่ก่อนวัย


 อ้างอิง : http://www.youtube.com
                    http://www.aimstarlover.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น